เปิดประวัติ มาร์โก้ รอยส์ Macro Reus

หากเราชื่นชอบทีมหรือสโมสรใด สโมสรหนึ่งแล้วละก็ เรานั้นก็จะชอบมันมากๆ และรวมไปถึงเรานั้นจะรู้จักนักเตะไม่ว่าจะเป็นดาวเด่นของทีมหรือแม้กระทั่งดาวรุ่งด้วยก็ตาม และในนักเตะจำนวนนั้นก็จะมีลูกหม้อหรือนักเตะที่อยู่กับสโมสรมาตั่งแต่ยังเป็นเด็กฝึกหัดจนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชุดใหญ่ในที่สุด ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานหลายๆคนในปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งวันนี้นักเตะคนดังกล่าวก็อยู่ในบุนเดสลีก้านี่แหละ โดยอย่างที่เราทราบกันดีว่า บุนเดสลีกา เยอรมัน 2022/23 นั้นต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย ซึ่งปรากฎว่าเป็น ‘เสือใต้’ บาเยิร์น มิวนิค ที่สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 11 ติดต่อกันได้สำเร็จ โดยทาง ดอร์ทมุนต์ที่พวกเขาเข้าใกล้แชมป์มากที่สุดแล้วในฤดูกาลนี้ ซึ่งเงื่อนไขของพวกเขาขอเพียงแค่ชนะนัดสุดท้ายก็จะเป็นแชมป์ทันที แต่ก็ทำไม่ได้ โดยเรานั้นก็ได้เห็นน้ำตาของผู้ที่เสียใจเป็นจำนวนมากในสนามไม่ว่าจะเป็นตัวเตะเอง รวมถึงแฟนบอลด้วยที่พวกเขาเดินทางมาดูเกมการแข่งขันนัดสุดท้ายกว่า 1 แสนคน ทั้งนี้คนที่เสียใจที่สุดก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกเสียจาก มาร์โก้ รอยส์ Macro Reus ที่เขาค้าแข้งกับสโมสรแห่งนี้มาร่วม 10 ปี ชายที่เห็นสโมสรดีกว่าเงินที่กองอยู่ตรงหน้า ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับชายคนนี้ให้มากยิ่งขึ้นกัน

Macro Reus ประวัตินักเตะ

Macro Reus

รอยส์ เกิดที่เมืองดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 1989 เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมเยาวชนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และเปิดตัวในระดับอาชีพกับสโมสรในปี พ.ศ. 2009 เขาย้ายไปโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค ในปี พ.ศ. 2012 และกลับมายังดอร์ทมุนด์ในปี พ.ศ. 2013 ซึ่งนับตั่งแต่ที่เขาย้ายมายังดอร์ทมุนต์และกลายเป็นนักเตะอาชีพ รอยส์ ได้สร้างผลงานกับให้กับทีมมายมากและกลายเป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญอย่างมากกับทีม โดยในยุคที่ดอร์ทมุนต์เรียกได้ว่าแข็งแกร่งนั้น เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในนักเตะชุดดังกล่าวด้วย โดยประกอบไปด้วย มาร์โก้ รอยส์ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ มาริโอ้ ก็อตเซ่ และอิกาย กุนโดกัน ซึ่งกุนซือในขณะนั้นก็คือ เจอร์เก้น คล็อปป์นั่นเอง และเขาก็เกือบพาดอร์ทมุนต์เป็นแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก โดยในปีนั้นพวกเขาต้องโคจรไปเจอกับคู่ปรับตลอดกาลอย่างบาเยิร์น มิวนิค ในรอบชิงชนะเลิศ และก็เป็น เสือใต้ ที่สามารถเอาชนะไปได้สำเร็จ ทั้งนี้ ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ สโมสรดอร์ทมุนต์ เมื่อเลวานดอฟสกี้และก็อตเซ่ พวกเขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมคู่อริอย่าง บาเยิร์น มิวนิค และการจากลาสโมสรของเจอร์เก้น คล็อปป์ที่เขานั้นตอบรับข้อเสนอในการย้ายไปคุมทีมลิเวอร์พูลนั่นเอง

Macro Reus

โดย รอยส์ นั้นก็ยังเป็นผู้นำของทีมเช่นเคย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่อย่างโธมัส ทูเคิ่ล ที่ทำทีมดอร์ทมุนต์แข็งแกร่งไม่แพ้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เช่นกันและ เสือเหลืองนั้นก็ได้มีนักเตะระดับโลกผุขึ้นมามากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ เออลิ่ง เบร้า ฮาลันด์ นั่นเอง ในฤดูกาล 2021/22 ฮาลันด์กับรอส์ประสานงานกันได้อย่างดีช่วยผลิดสกอร์ให้ดอร์ทมุนต์แบบกระจุยกระจาย แต่กองหลังของพวกเขาก็พร้อมจะเสียประตูทุกเมื่อเช่นกันทำให้โอกาสคว้าแชมป์หลุดลอยไป

Macro Reus

และในปีนี้แม้ว่า ดอร์ทมุนต์ จะไม่มีฮาลันที่ย้ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้แล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังได้เจ้าหนูจู๊ด เบลลิ่งแฮมที่กำลังจะกลายเป็นนักเตะของเรอัล มาดริด รวมถึง อเดเยมี่ ดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมช่วยกนประสานงานจนทำให้ทีมอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ แต่ก็อย่างที่กล่าวไปในนัดสุเท้ายพวกเขาไม่สามารถเอาชนะทีมคู่แข่งได้จึงต้องยกถ้วยแชมป์ปีนี้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ไปในที่สุด

ซึ่งเราคงจะได้เห็นน้ำตาของลูกผู้ชายคนนี้ที่มันหลั่งไหลกันออกมาแล้วว่ามันรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหนกัน โดยมันคงจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามทั่วทั้งโลกก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของชายที่ชื่อว่า มาร์โก้ รอยส์ ทีมีต่อสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ แล้วแหละ